หนึ่งในอุปกรณ์ของยุคนี้ที่คนใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตขาดไม่ได้เลยคือ “ที่ชาร์จแบตฯ” เพราะช่วยให้เราใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน อุปกรณ์ชาร์จแบตฯได้ถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิด "แท่นชาร์จไร้สาย" ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาของสายชาร์จ เช่น สายหักใน ฉนวนหุ้มฉีกขาด ระโยงระยางเกะกะอยู่บนโต๊ะ หรือจากที่เคยต้องมีที่ชาร์จ 1 ชนิดต่อ 1 อุปกรณ์ใช้ได้แค่เฉพาะรุ่น แต่ถ้าใช้แท่นชาร์จไร้สาย ที่มีนวัตกรรม Qi (Standard) Wireless ก็จะช่วยให้การชาร์จแบตฯ หลายแบรนด์ในเครื่องเดียว เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นกันค่ะ เหมือนอย่างกรณีของ iPhone ที่ใช้ร่วมกับ Samsung ได้ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายลง 1 ครอบครัวไม่ต้องซื้อสายชาร์จหลายเส้นอีกต่อไป
วันนี้ เราจึงขอแนะนำ “วิธีการเลือกแท่นชาร์จไร้สาย” ที่รวบรวมมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านเทคโนโลยีอยู่แล้ว และ “10 อันดับแท่นชาร์จไร้สายขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งจากราคา, คุณสมบัติและรีวิวมาให้เพื่อน ๆ ได้ศึกษากันก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกันค่ะ โดยจะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลยดีกว่า
ตอนที่ได้ยินชื่อผลิตภัณฑ์นี้ครั้งแรก ผู้เขียนก็สงสัยเหมือนกันค่ะว่าคุณเขาทำงานกันอย่างไร แต่ว่าแต่ละเว็บในอินเทอร์เน็ตก็อธิบายไว้เข้าใจยากเหลือเกิน วันนี้ผู้เขียนจึงขอสรุปให้เพื่อน ๆ เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้เลยค่ะ
Wireless Charger หรือแท่นชาร์จไร้สาย คือ เทคโนโลยีที่ทำให้เราชาร์จไฟได้โดยไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อกับที่ชาร์จ แค่ทำการวางอุปกรณ์ลงบนแท่นชาร์จเท่านั้นก็เริ่มชาร์จไฟได้ การทำงานของอุปกรณ์ประเภทนี้สรุปง่าย ๆ คือ ใช้การส่งผ่านพลังงานกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำจากอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นฐานไปยังอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้รับ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ที่เพิ่งเริ่มต้นไม่นานยังมีแววว่าจะพัฒนาต่อไปได้อีก
ส่วนที่เห็นคำว่า Qi (Standard) Wireless Charging บ่อย ๆ ก็คือ มาตรฐานการชาร์จแบตเตอรี่โดยใช้เทคโนโลยีดังกล่าว เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานสากลที่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย (Qi อ่านว่า Chee ในภาษาจีนหมายถึง “การไหลเวียนของพลังงาน”) อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกรุ่นจะรองรับการชาร์จด้วยวิธีดังกล่าว ถ้าอุปกรณ์ที่เรามีไม่รองรับมาตรฐาน Qi เพื่อน ๆ จำเป็นจะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพื่อให้ใช้แท่นชาร์จไร้สายได้ ดังนั้น ก่อนจะซื้อแท่นชาร์จไร้สาย จึงควรตรวจสอบก่อนว่าอุปกรณ์ของตัวเองมีเทคโนโลยีนี้ไหม หรือรองรับระบบของแท่นชาร์จประเภทใด
ทำความรู้จักแท่นชาร์จไร้สายกันไปพอสมควรแล้ว ลำดับต่อไป เรามาดูวิธีการเลือกที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ แถมยังทำตามกันได้ง่าย ๆ กันดีกว่าค่ะ
ตามที่เราได้เกริ่นไปในตอนต้น การทำงานของแท่นชาร์จอาศัยหลักการเหนี่ยวนำของกระแสแม่เหล็กไฟฟ้า ภายในผลิตภัณฑ์จึงมี Coil หมุนจ่ายพลังงาน ซึ่งจำนวนของมันมีผลต่อความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
Coil หลายชิ้น : ข้อดีของประเภทแบบนี้ คือ พื้นที่ในการจ่ายพลังงานค่อนข้างกว้าง ดังนั้น ผู้ใช้จึงสามารถวางมือถือหรือแท็บเล็ตบนแท่นได้หลายแนว เช่น แนวตั้งและแนวนอน ไม่ต้องวางตรงเป๊ะก็ชาร์จได้ แต่อาจจะทำให้ขนาดของแท่นชาร์จมักจะใหญ่กว่ารุ่นอื่น ๆ และมีราคาที่สูงกว่าด้วย
Coil เดียว : แน่นอนว่าขนาดของแท่นชาร์จจะเล็กกว่าและราคาถูกกว่าแบบแรก แต่ต้องแลกกับความสะดวกสบาย เพราะเพื่อน ๆ ต้องวางมือถือให้ตรงแนว Coil เท่านั้นไม่เช่นนั้นอาจไม่สามารถชาร์จแบตมือถือได้
อาจจะดูไม่เกี่ยวข้องกัน แต่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอเหตุการณ์ “เครื่องร้อนตอนชาร์จแบตฯ” ยิ่งถ้าชาร์จด้วยแท่นชาร์จที่ทำงานด้วยระบบ Qi ยิ่งต้องใส่ใจมากขึ้นเลยค่ะ เพราะกระบวนการการเหนี่ยวนำกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าจะทำให้เกิดความร้อน ซึ่งไวต่อแบตเตอรี่ โดยเฉพาะชนิด Lithium-ion จนอาจทำให้แบตฯเสื่อมลงเร็วขึ้น มีรายงานว่าเกิดเคสที่ถึงขั้นตัวชาร์จหลอมละลาย ทำให้มือถือด้านนอกเสียหายไปด้วย เราจึงควรเลือกซื้อรุ่นที่มีฟังก์ชันตัดกระแสไฟฟ้าทันทีที่ตรวจจับอุณหภูมิได้สูงกว่าปกติได้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานนะคะ
เอาล่ะค่ะ ตอนนี้หลายคนคงอยากจะดูสินค้าที่ได้รับความนิยมกันเต็มที่แล้ว และเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปดูข้อมูลของแต่ละอันดับกันเลยดีกว่า แต่อย่าลืมนะคะ เลือกรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองและราคาสมเหตุสมผล เมื่อใช้งานจริงจะได้ไม่ผิดหวังนะคะ
ใครที่เจอปัญหาแท่นชาร์จแบตฯเข้าช้า แนะนำให้ลองซื้อรุ่นนี้ดูเลยค่ะ เพราะมีกำลังจ่ายไฟสูงสุดถึง 10W พร้อมระบบป้องกันไฟกระชาก, ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม และความปลอดภัยด้านอื่น ๆ อีกทั้งยังมีระบบไฟ LED บอกสถานการณ์ใช้งานนั้น ๆ ในเซ็ตประกอบไปด้วยแท่นชาร์จและสาย USB 1 เส้น โดยใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่รองรับเทคโนโลยี Qi
หลายคนที่ได้ใช้จริงต่างชื่นชอบในประสิทธิภาพที่ตรงตามสเปกและรูปลักษณ์ที่สวยงามหรูหรา โดยสามารถชาร์จได้แม้ขณะใส่เคส ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวค่ะ
ความพิเศษของรุ่นนี้อยู่ที่โหมดชาร์จที่มี 2 แบบด้วยกันค่ะ แบบแรกเป็นแบบชาร์จเร็ว 10W สำหรับโทรศัพท์ที่รองรับเทคโนโลยี Qi ส่วนแบบที่สองเป็นแบบปกติ จะจ่ายไฟ 7.5W สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น กำลังไฟเกินมาตรฐานและอุณหภูมิสูงผิดปกติ นอกจากนี้ ยังมีระบบไฟ LED บอกสถานการณ์ใช้งานและมีขนาดกะทัดรัดเพียง 7.1×0.5 ซม.
มาดูการรับประกันของรุ่นนี้กันบ้าง มีใบรับรองถึง 2 ปีเลยนะคะ ส่วนผลลัพธ์การใช้งาน หลายคนบอกว่าใช้งานได้จริงตรงตามสเปก แต่เสียดายที่ไม่มี Adapter แถมมาให้ด้วย
เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ ด้วยนวัตกรรมพิเศษรองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนทั้งที่มีระบบ Qi และไม่มี โดยรุ่นที่ไม่มีจะมีอุปกรณ์เสริมมาให้ในเซต จึงตอบโจทย์ได้แทบทุกคน พร้อมทั้งจ่ายกำลังไฟสูงสุดถึง DC5V-1A และผ่านการทดสอบใช้งานนานกว่า 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีใบรับประกันสินค้านานถึง 6 เดือนด้วยนะคะ
มาดูผลลัพธ์การใช้งานกันบ้าง หลายคนบอกว่าชาร์จแบตได้ดี ตรงตามสเปกของเครื่อง ราคาย่อมเยา แถมวัสดุยังแข็งแรงคงทน แต่รุ่นนี้ไม่มีสาย USB แถมมาด้วยนะคะ
ใครที่เล่นอุปกรณ์เกี่ยวกับมือถือหรือแท็บเล็ตน่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ดี เพราะสินค้าได้รับมาตรฐาน MFi จาก Apple โดยรุ่นนี้รองรับทั้งมือถือ Samsung และ iPhone หลายรุ่น ผ่านการจ่ายกระแสไฟฟ้า 5W/1-amp ทำให้ชาร์จเร็วกว่ารุ่นอื่น ๆ พร้อมทั้งมีดีไซน์เรียบหรู นอกจากนี้ยังมีระบบไฟ LED คอยบอกสถานะการทำงานอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หลายคนบ่นว่าไม่มีตัวล็อก ทำให้มือถือเลื่อนจากแท่นชาร์จได้ง่าย และยังมีราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติอื่น ๆ แล้วยังถือว่าน่าสนใจทีเดียวค่ะ
แท่นชาร์จไร้สายรุ่นนี้มีขนาดเล็กเพียง 7 cm หนา 1 cm แต่มาพร้อมกับกำลังจ่ายไฟฟ้าสูงสุดถึง 10W ทำให้ชาร์จไวไม่แพ้รุ่นอื่น ซึ่งมาตรฐานคุณภาพนั้นได้รับการรับรองจากองค์กรควบคุมคุณภาพของหลายประเทศไม่ว่าจะ FCC, CE, PSE และ RoHS มั่นใจได้ว่ามีความเสถียร โดยมีระยะการทำงานไม่เกิน 0.6 ซม. ทำให้เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะทำงานหรือหัวเตียงที่มีพื้นที่จำกัด หรือจะพกพาไปไหนด้วยก็ไม่ลำบาก
สำหรับรุ่นนี้รองรับทั้งมือถือ Samsung และ iPhone ทุกรุ่นที่มีระบบ Qi ซึ่งหลายคนที่ใช้จริงต่างบอกว่าสินค้าตรงตามสเปกและวัสดุแข็งแรงคงทน มือถือไม่ลื่นหล่นด้วยค่ะ
อีกรุ่นที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟ 10W เมื่อใช้ Adapter Qualcomm QuickCharge และสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีนี้ แต่ถ้าปกติจะได้ที่ 5W เท่านั้น มีระบบป้องกันต่างๆ เช่น ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม ส่วนวัสดุผลิตมาจาก ABS+iron คุณภาพดี จึงแข็งแรงและคงทน นอกจากนี้ยังมีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา
สำหรับผลลัพธ์การใช้งานและความปลอดภัย รุ่นนี้สามารถชาร์จได้แม้ใส่เคส (เคสที่ไม่หนามาก) ซึ่งเป็นสิ่งที่แท่นชาร์จหลายยี่ห้อทำไม่ได้ ทั้งยังมาพร้อมแท่นวางที่เลื่อนเก็บได้ ให้คุณสามารถบริหารพื้นที่ตั้งวางและจัดเก็บได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังมีใบรับประกันนานถึง 6 เดือนด้วยค่ะ
แท่นชาร์จอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยกำลังจ่ายไฟ 5V/1A ภายใต้ระยะห่างไม่เกิน 0.8 ซม. ใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่รองรับเทคโนโลยี Qi ส่วนวัสดุของผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติต้านการติดไฟ และให้สัมผัสที่สะดวกต่อการหยิบจับ ปัจจุบันมีให้เลือก 2 สี และที่สำคัญ มีใบรับประกัน 1 เดือนด้วยนะคะ ใครที่ซื้อไปแล้วกลัวว่าจะใช้ไม่ได้ ไม่ต้องกังวลเลย
ด้านผลลัพธ์การใช้งานจริง สามารถชาร์จแบตฯเข้าได้ตรงตามสเปกที่อวดอ้างไว้ แม้ว่าจะใส่เคสขณะที่ชาร์จไว้ก็ตาม ส่วนเรื่องรูปลักษณ์ก็ทำออกมาได้ดี ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่ากับราคา
สำหรับแท่นชาร์จรุ่นนี้กำลังจ่ายไฟสูงสุด 5V 2A ชาร์จได้ภายในระยะไม่เกิน 0.5 ซม. พร้อมรองรับได้ทุกอุปกรณ์ที่มีระบบ Qi อีกทั้งผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจาก FCC, CE, RoHS ตัวดีไซน์ผิวกระจกรอบนอกมีความหรูหราแถมช่วยระบายความร้อนได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ อาจจะดูเหมือนมีน้ำหนักแต่ความจริงหนักเพียง 140 g เท่านั้น เพียงแต่ต้องระวังการแตกร้าวสักหน่อยนะคะ
ส่วนใหญ่แล้วหลายคนชื่นชอบ บอกว่าใช้งานง่าย คุ้มราคาได้ตรงตามสเปก นอกจากนี้รูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ยังสวยและดูทันสมัย แถมมีให้เลือก 3 สีอีกด้วย
รุ่นนี้ต้องถูกใจสาวก Galaxy เป็นแน่แท้ เพราะว่าตอบรับการใช้งานได้ทั้งกับสมาร์ทโฟนและนาฬิกาตระกูล Galaxy แถมชาร์จได้พร้อมกันในเวลาเดียว หรือจะชาร์จสมาร์ทโฟน 2 เครื่องพร้อมกันก็ได้ไม่มีปัญหา ช่วยให้คุณ ๆ ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยค่ะ
เครื่องรองรับเทคโนโลยี Qi หมายความว่าถ้ามีอุปกรณ์รองรับ Qi อื่นแต่ไม่ใช่ Galaxy ก็สามารถชาร์จได้นะคะ อีกทั้งมีระบบ Fast Charge 2.0 ชาร์จได้เร็วทันใจ พร้อมพัดลมระบายความร้อนที่ทำงานเงียบ ดีไซน์ทันสมัย ขนาดไม่ใหญ่ค่ะ
อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นนาฬิกานะคะ ตัวนี้ คือ แท่นชาร์จไร้สายเองค่ะ โดยรุ่นนี้มี 4 สีให้เลือก ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าสนใจ เช่น กำลังจ่ายไฟสูงสุดถึง 10W ทำให้ชาร์จแบตได้เร็ว (ควรใช้คู่กับ Adapter Quick Charge 3.0 นะคะ), ระบบไฟ LED บอกสถานการณ์ใช้งาน, ขนาดกะทัดรัดเพียง 1.1×1.1×1.65 ซม. และหนักแค่ 120 กรัม โดยใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่รองรับเทคโนโลยี Qi
ผลลัพธ์การใช้งานของรุ่นนี้ทำงานได้ตรงตามคำอวดอ้างและมีวิธีใช้ที่ง่าย แต่บางคนบ่นเรื่องระบบไฟ LED ว่าไม่ค่อยเสถียรเท่าไรนะคะ อย่างไรก็ตาม ไม่มีผลต่อการใช้งานค่ะ
หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนที่เทคโนโลยีนี้เพิ่งออกตัวใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์ยังมีให้เลือกน้อยและราคายังสูงมาก แถมอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ยังจำกัด ทำให้หลายคนต้องพลาดเทคโนโลยีดี ๆ ไปโดยปริยาย แต่เดี๋ยวนี้หลายแบรนด์ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีหลายรุ่น หลายราคามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เพื่อน ๆ อย่าลืมเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองด้วยนะคะ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
สิ่งที่สำคัญสำหรับการใช้งานที่ชาร์จแบบนี้ คือ “ระวังเรื่องความร้อน” ถ้ารู้สึกว่าเครื่องร้อนมาก แนะนำให้หยุดชาร์จก่อนนะคะ เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ อย่าลืมใส่ใจการเก็บรักษากันด้วยนะคะ