น่าซื้อ 6 อันดับ หน้ากากอนามัย ที รุ่นไหนดี รีวิวเพียบ อัพเดทล่าสุดปี 2567

ชวนคุณมาช้อปออนไลน์กับสินค้าคุณภาพดี จากหลากหลายแบรนด์ดังพร้อมทั้งโปรโมชั่นอีกมากมาย ทั้งโปรส่งฟรี ทั่วประเทศ ไอเท็มเด็ดราคาถูก สายช้อปเตรียมตัวให้พร้อมกับโปรโมชั่นนี้ ให้คุณช้อปคุ้มชัวร์ด้วยดีลเด็ด มอบส่วนลดหลายต่อแบบไม่เกรงใจใคร สินค้าลดราคามากมาย
ราคาเด็ดถุกใจลุกค้าแน่นอน ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ หน้ากากอนามัย  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง หน้ากากอนามัย  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง ของพรีเมี่ยม ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
หากคุณกำลังมองหาหน้ากากอนามัยพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมหน้ากากอนามัยชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ หน้ากากอนามัย ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ หน้ากากอนามัย ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

ใครที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพช่วงนี้คงเจอมลพิษทางอากาศอย่างฝุ่นละอองกันถ้วนหน้า ส่งผลให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหา ยิ่งถ้าคุณเป็นผู้ป่วยโรคหอบหืดหรือโรคอื่น ๆ ที่ไวต่อสภาพอากาศด้วยแล้วยิ่งอันตราย แนะนำให้ป้องกันเบื้องต้นด้วยการคาดหน้ากากอนามัยกันดีกว่าค่ะ อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์นี้มีหลายประเภท ไม่ใช่ทุกรุ่นที่สามารถป้องกันฝุ่นได้ หรือมีระดับการป้องกันที่ต่างกัน เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา วันนี้ผู้เขียนรวบรวมคำตอบมาให้แล้วค่ะ

ในส่วนแรกจะขออธิบาย “วิธีการเลือก” ซึ่งแปลจากต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น ประเทศที่ใส่ใจเรื่องมลภาวะและความสะอาดมากเป็นพิเศษ จากนั้นตามด้วย “9 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบคุณสมบัติ, ราคา และรีวิวในประเทศไทย เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้ใช้เป็นตัวช่วยในการเลือกซื้อ แต่ละส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ
จากที่เกริ่นไปในตอนต้นว่าหน้ากากอนามัยมีหลายแบบ แตกต่างกันไปตามวัสดุที่ทำ, รูปทรงและขนาด คราวนี้มาอ่านรายละเอียดกันดีกว่าค่ะว่าลักษณะไหนที่ตอบโจทย์ของเราได้มากที่สุด
วัสดุที่ใช้ผลิตหน้ากากอนามัยมีด้วยกัน 3 ประเภทค่ะ ได้แก่ “ผ้าใยสังเคราะห์”, “ไนลอน” และ”ผ้าก๊อซ” โดยประเภทที่ถูกผลิตมากที่สุดคือประเภทแรก เพราะมีน้ำหนักเบา สามารถใช้ได้หลายสถาณการณ์และหาซื้อตามร้านสะดวกซื้อหรือร้านขายยาได้ง่าย ส่วนรุ่นที่ผลิตมาจากไนลอนจะช่วยให้หายใจสะดวกมากกว่าและยากที่จะเกิดไอร้อน จึงเหมาะกับการใช้ในประเทศไทย เพราะมีอากาศที่อุณหภูมิสูงตลอดทั้งปี
ปิดท้ายกันด้วยประเภทสุดท้าย ผ้าก๊อซมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ดี จึงเหมาะกับการคาดในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำหรือช่วงฤดูหนาวนั่นเองและยังเหมาะสำหรับตอนนอนอีกด้วย เพราะสามารถป้องกันไม่ให้จมูกและคอของเราแห้งเนื่องจากอากาศเย็นได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำความสะอาดง่ายและใช้งานสะดวกอีกด้วยค่ะ
หน้ากากอนามัยแต่ละรุ่นจะมีความสามารถในการกรองไม่เท่ากันค่ะ ก่อนการซื้อจึงควรตรวจสอบด้วยนะคะ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อกรองฝุ่นละออง เนื่องจากฝุ่นมีหลายขนาด อย่างถ้าต้องการความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ ให้เลือกรุ่นที่สามารถกรองฝุ่นขนาด PM 2.5 ได้เลยค่ะ
อย่างไรก็ตามบางรุ่นก็ไม่ระบุระดับการกรองชัดเจน ให้หันมาพิจารณาจากลักษณะของหน้ากากแทน โดยรุ่นที่มีความหนาสองชั้นจะเพียงพอต่อการป้องกันมลภาวะทั่วไป ส่วนรุ่นที่มีชั้นมากกว่านั้นจะเหมาะกับการป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 และเชื้อโรคติดต่อ
เกร็ดน่ารู้ : องค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกรองอนุภาคได้กำหนดมาตรฐานการกรองออกเป็นหลายระดับ แต่ที่เห็นได้บ่อยในไทย ได้แก่ N95 และ P1 ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ เห็นสัญลักษณ์เหล่านี้บนบรรจุภัณฑ์ไหนก็มั่นใจได้ทันทีเลยค่ะว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีประสิทธิภาพกรองฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
รูปทรงขอหน้ากากมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกันค่ะ ได้แก่ “แบบพับ” กับ “แบบแข็ง” โดยแบบแรกจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า หน้ากากจะไม่คลาดเคลื่อนเวลาพูด เหมาะกับคนที่ต้องสนทนาอยู่ตลอดเวลาหรือใส่อยู่เกือบทั้งวัน อย่างไรก็ตามข้อจำกัดคือหน้ากากจะใกล้กับใบหน้าของเรามากค่ะ ทำให้รับรู้ถึงไอร้อนหรือรู้สึกอึดอัดขณะหายใจได้มากกว่าแบบที่สอง
มาดูแบบแข็งกันบ้าง ประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นรูปทรง 3 มิติ ซึ่งจะคงตัวอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดช่องสำหรับหายใจมากกว่าและยังไม่ทำให้เมคอัพหลุดหรือเลือนด้วยค่ะ เพื่อน ๆ ลองเลือกจากความชอบและการใช้งานของตัวเองกันดูนะคะ
ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ไม่ทราบว่าหน้ากากอนามัยมีหลายไซซ์ค่ะ คิดว่าเป็น Free size มาตลอด แต่บางรุ่นมีหลายขนาดเพื่อให้สอดรับกับสรีระของผู้ใช้มากขึ้น ก่อนการซื้อจึงควรเช็คขนาดให้ดีเสียก่อน ส่วนใครที่ยังไม่รู้ขนาดใบหน้าของตัวเอง สามารถวัดได้ง่าย ๆ ด้วยการทำนิ้วเป็นรูปตัว L ตามภาพแล้ววัดความยาวจากหูข้างหนึ่งไปหาปลายจมูก เท่านี้ก็จะรู้แล้วค่ะว่าควรใช้ไซซ์ไหน
หากวัดแล้วได้ขนาดใบหน้าอยู่ที่ประมาณ 12.5 ซม. หรือสั้นกว่านั้น ควรเลือกหน้ากากอนามัยไซซ์เล็ก S ซึ่งโดยทั่วไปไซซ์นี้จะเหมาะกับใบหน้าผู้หญิงและเด็กค่ะ แต่ถ้ามีความยาวตั้งแต่ 12-13.5 ซม. เลือกไซซ์กลาง M จะดีกว่า และถ้าใบหน้ามีความยาวเกิน 14 ซม. แนะนำให้เลือกเป็นไซซ์ใหญ่ไปเลยนะคะ
หลายคนไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องนี้เท่าไร แต่จริง ๆ แล้วมีผลต่อการใช้งานมากเลยค่ะ ก่อนซื้อจึงควรตรวจสอบหน้ากากให้ดีว่าสายคาดมีความหนาพอเหมาะไหมและนุ่มมากพอหรือเปล่า เวลาใส่จะได้ไม่เจ็บ ยิ่งถ้าต้องใส่เป็นเวลานานด้วยแล้วยิ่งต้องใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ส่วนอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่อยากให้ใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่ใส่แว่นคือ ความสามารถในการป้องกันการเกิดฝ้าเกาะเลนส์แว่น เพราะเวลาคนเราหายใจออกจะมีไอน้ำออกมาด้วย เมื่อสะสมเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เกิดฝ้าจับบริเวณเลนส์แว่นตาจนมองเห็นไม่ถนัดและอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น กันแดด คราวนี้เพื่อน ๆ ลองเลือกซื้อให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองดูนะคะ
หากใช้อายุการใช้งานเป็นเกณฑ์จะสามารถแบ่งหน้ากากอนามัยออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกันค่ะ “แบบใช้แล้วทิ้ง” กับ “แบบซักกลับมาใช้ใหม่” ดังนั้นราคาจึงมีผลต่อความคุ้มค่า ถ้าใครเลือกแบบใช้แล้วทิ้ง แนะนำว่าควรซื้อรุ่นที่มีราคาย่อมเยา สามารถซื้อใช้ได้ทุกวันหรือตลอดระยะเวลาที่ต้องการ ในขณะที่ถ้าเป็นแบบซักได้ อาจจะซื้อเป็นของคุณภาพดีไปเลย เมื่อซักบ่อย ๆ หน้ากากจะได้ไม่เสียหายนั่นเอง
สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญและต้องมาก่อนอันดับแรก และที่ฮอตมากในบ้านเราตอนนี้คือฝุ่น PM2.5 ชนิดโหดร้ายมากและทุกคนก็ต้องหาวิธีป้องกันฝุ่นร้ายนี้ หน้ากากอนามัยจึงจำเป็นและเป็นที่ต้องการมากในขณะนี้ และใช่ว่าหน้ากากทั่วไปจะช่วยป้องกันฝุ่นนี้ได้ แต่ "Pitta Mask" หน้ากากอนามัยสุดฮิตจากญี่ปุ่นตอบโจทย์ปัญหานี้ได้ มองภายนอกอาจจะดูคล้ายหน้ากากธรรมดาทั่วไปแต่บอกเลยว่าไม่ธรรมดาใช้ดีและทนจริง (แต่รุ่นนี้จะซักไม่ได้นะคะ) และต่อไปนี้คือเหตุผลที่เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้

Pitta Mask รุ่นใหม่ล่าสุด มีสัมผัสที่นุ่ม ใส่สบาย อ่อนโยนต่อผิวหน้า ไม่อับชื้น ป้องกันเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียได้ดี และคุณลักษณะเด่นของหน้ากากนี้คือมันสามารถช่วยป้องกันฝุ่นเม็ดละเอียดชนิดที่ว่าเราไม่สามารถมองเห็นมันได้ ใส่แล้วเบาสบาย หายใจได้คล่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นพิษอีกต่อไป ปัญหามลพิษหมดไปได้ยาก แต่เราก็ต้องรู้จักรับมือและป้องกันมันด้วยตัวเราเองไม่เช่นนั้นสุขภาพเราจะแย่เอา

ส่วนใครที่ติว่าหน้ากากอนามัยดีไซน์ไม่มีความเท่ หรือเมื่อสวมใส่แล้วเกิดผื่นคัน, มีอาการแพ้  ทีมงานมีบทความสินค้า "หน้ากากผ้า" มาแนะนำกันด้วยค่ะ โดยหน้ากากแบบผ้าจะมีสัมผัสที่นุ่มอ่อนโยนกว่า เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย อีกทั้งยังสามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้อาจมีคุณสมบัติบางอย่างที่แตกต่างกันไป ดังนั้นควรตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าให้ดีก่อนซื้อนะคะ

ตอนนี้เพื่อน ๆ คงรู้แล้วว่าจะเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง แต่ก็ยังไม่รู้กันใช่ไหมเอ่ยว่ามีสินค้าใดที่น่าสนใจบ้าง ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เราไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
เริ่มต้นด้วยหน้ากากอนามัยแบบแข็งสำหรับป้องกันฝุ่น ควันและเชื้อไวรัส สามารถกรองอนุภาคขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอนได้ถึง 95% ได้รับมาตรฐาน EN149 และ NIOSH N95 การันตีคุณภาพว่าสามารถใช้งานได้จริง เหมาะกับงานเก็บกวาดหรืออุตสาหากรรมทั่วไปที่มักมีฝุ่นอยู่ตลอดเวลา เช่น งานเจียร งานขัดสี งานบัดกรีและสิ่งทอ
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ สามารถกรองอนุภาคที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 2.5 ไมครอนได้มากถึง 97% โดยดีไซน์ให้มีรูปทรงที่พอเหมาะกับสรีระของใบหน้ามนุษย์ มาพร้อมวาล์วสำหรับเปิด-ปิดเพื่อให้หายใจสะดวกมากยิ่งขึ้น และมีที่แขวนสายคาดด้านหลังศีรษะ ช่วยล็อกให้หน้ากากยึดเกาะกับใบหน้าได้มั่นคงขึ้น นอกจากนี้ยังทำมาจาก TPU จึงอ่อนโยนกับผิวหนัง หลายคนที่ใช้จริงต่างบอกว่าทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รุ่นนี้โดดเด่นด้วยความสามารถในการกรอง Nitrogen Dioxide (NO2), Sulphur Dioxide (SO2) และ Ozone (O3) ซึ่งพบได้ตามไฟไหม้ป่าหรืออุตสาหกรรมรถยนตร์ได้มากถึง 90% นอกจากนี้ยังกรองอนุภาคอื่น ๆ ที่มีขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอนได้อีก 95% นานกว่า 8 ชั่วโมง โดยดีไซน์ให้เก็บรักษาง่ายด้วยการพับ และมีแผ่นตรวจเช็คว่าควรเปลี่ยนหน้ากากใหม่หรือยัง จึงทำให้คุณใช้งานง่ายมากขึ้น

เกร็ดน่ารู้ : เมื่อสติ๊กเกอร์วงกลมสีขาวที่แปะมาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ให้ทิ้งได้ทันที
ก่อนอื่นต้องบอกว่าแบรนด์นี้มีหน้ากากอนามัยหลายรุ่นเลยค่ะ เวลาซื้อจึงควรเช็คดี ๆ โดยรุ่นนี้สามารถป้องกันฝุ่นละอองได้ตามมาตรฐาน N95, NIOSH ประเทศสหรัฐอเมริกา ดีไซน์เป็นแบบพับ โดยถูกพัฒนาให้มีรูปทรงช่วยให้การสื่อสารสะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังมีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อด้วยค่ะ อย่างไรก็ตามจากรีวิวบอกว่าสายคล้องเป็นแบบสวมศีรษะนะคะ สาว ๆ ที่ห่วงทรงผมเป็นพิเศษอาจไม่เหมาะ
ยังคงอยู่กับแบรนด์ 3M รุ่นนี้เป็นแบบพับได้ มีวาล์วช่วยให้หายใจสะดวกมากขึ้นและสายคาดแบบคล้องหู ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ผมยุ่ง โดยผลิตมาจาก Polypropylene ที่ได้รับการประจุไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดักจับฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก การันตีคุณภาพด้วยมาตรฐานยุโรป P1 มาด้วย (ประสิทธิภาพการกรองอนุภาคที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทางกล ได้แก่ ฝุ่นละออง ประมาณ 80%)
รุ่นนี้ผลิตมาจากเส้นใยฝ้ายแท้จึงค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว โดยสามารถกรองอนุภาคขนาดใหญ่กว่า 0.3 ไมครอนได้มาถึง 95% พร้อมดีไซน์แบบพับที่ช่วยให้คุณพกพาสะดวกมากขึ้น ทั้งยังสะดวกต่อการสนทนา นอกจากนี้สายคาดยังเป็นแบบเกี่ยวหู ทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าผมจะยุ่งเวลาถอดออก
อีกหนึ่งรุ่นจาก 3M ที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ ผลิตมาจากเส้นใย Polypropylene ที่ได้รับการประจุไฟฟ้าเพิ่มประสิทธิในการดักจับอนุภาคขนาดเล็ก พร้อมผสม Activated Carbon อยู่ใน 4 ชั้นกรองเพื่อป้องกันการระเหยของสารอินทรีย์ในอากาศ นอกจากนี้ยังสามารถกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนได้ถึง 80% ตามมาตรฐาน P1 ของยุโรป โดยมีดีไซน์เป็นแบบพับและมีสายคล้องหู
รุ่นนี้ทำมาจาก Polypropylene ช่วยในการดักจับอนุภาค มีแถบอลูมิเนียมบริเวณจมูก พร้อมบุโฟมด้านในหลังแถบเพื่อเพิ่มความกระชับให้เข้ากับรูปหน้าและให้ความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ โดยสามารถป้องกันฝุ่นละอองที่ไม่ปนเปื้อนน้ำมันได้มากถึง 95% ตามชั้นคุณภาพ N95 ของมาตรฐาน NIOSH นอกจากนี้ยังดีไซน์ให้ปกป้องได้ดีด้วยการสวมศีรษะ ถือเป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมมากค่ะ
มาถึงอันดับที่ 1 ของเรา ก่อนอื่นต้องบอกว่ารุ่นนี้มีปลอมเยอะมากค่ะ แนะนำให้เลือกซื้อจากร้านที่นำเข้าจากญี่ปุ่นโดยตรงจะดีกว่า โดยหน้ากากผลิตมาจาก Polyurethane ได้รับการพัฒนาให้ดักจับฝุ่นละอองได้ถึง 99% แต่เนื้อผ้ากลับระบายอากาศได้ดี ทำให้หายใจสะดวยและยังอ่อนโยนต่อผิว แม้ใส่เป็นเวลานานก็ไม่เจ็บหู นอกจากนี้ยังดีไซน์ให้เข้ากับสรีระพอดี ไม่มีช่องว่างให้มลพิษและเชื้อโรคเล็ดลอดเข้าไป ที่สำคัญมีหลายสีสันให้เลือก นอกจากจะป้องกันสุขภาพแล้ว ยังใส่เป็นแฟชั่นได้ด้วยค่ะ

เกร็ดน่ารู้ : 1 ห่อบรรจุ 3 ชิ้น
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงเคยสงสัยว่าหน้ากากอนามัยต้องใส่ด้านไหน และสามารถใส่ได้กี่ครั้งกันแน่ วันนี้เราได้รวบรวมคำตอบมาให้อ่านกันแล้วค่ะ
หน้ากากอนามัยมี 2 ด้านด้วยกันค่ะ ได้แก่ ด้านหน้ากับด้านหลัง เวลาใส่จึงต้องเช็คให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะแบบพับได้ ให้สังเกตว่าตอนใส่ได้หันด้านที่มีรอยพับลงมาหรือเปล่า หลังจากนั้นกะให้บริเวณขอบลวดอยู่ระดับสันจมูกพอดี และระมัดระวังอย่าให้มีช่องว่างที่อากาศด้านนอกจะรอดเข้ามาได้เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่อาจแพร่กระจายมาด้วย นอกจากนี้อย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อนใส่หน้ากากด้วยนะคะ
หน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้ง ควรเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ วัน ไม่ควรนำมาใส่ซ้ำ ค่ะ เพราะหากนำหน้ากากที่ใช้แล้วมาใช้อีกรอบจะมีความเสี่ยงสูงมากที่เชื้อโรค/เชื้อแบคทีเรียที่ติดอยู่ที่หน้ากากไม่ว่าจากฝุ่นควัน มลพิษหรือจากร่างกายเราเองจะเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพผู้ใส่และคนรอบข้าง
นอกจากนี้ ในกรณีที่ถอดออกเพื่อทานข้าวเพื่อน ๆ ยังต้องใส่ใจดูแลความสะอาดของหน้ากากโดย หากล่องจัดเก็บหน้ากากอนามัยโดยเฉพาะมาใส่ ไม่ควรใส่ในกระเป๋าถือหรือกระเป๋ากางเกง เพราะอาจทำให้ปนเปื้อนฝุ่น สารเคมีหรือเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ค่ะ
เมื่อไรก็ตามที่คุณต้องออกจากบ้านไปเจอมลภาวะภายนอก ไม่ว่าจะในวันที่อากาศเป็นปกติหรือมีฝุ่นปกคลุมก็ตาม แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยเสมอนะคะ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอากาศแต่ละสถานที่ที่เราสูดเข้าไปมีฝุ่นหรือเชื้อโรคมากน้อยแค่ไหน หากต้องเจอสภาวะนั้นนาน ๆ อาจทำให้ระบบทางเดินหายใจมีปัญหาได้
สุดท้ายนี้ นอกเหนือจากการป้องกันตัวเองจากมลภาวะแล้ว อย่าลืมใส่ใจดูแลสภาพอากาศกันด้วยนะคะ มาลดกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศกันดีกว่า เพื่อทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้น